papae

papae

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ของวิเศษที่โดเรม่อนใช้บ่อย




คอปเตอร์ไม้ไผ่

คอปเตอร์ไม้ไผ่ ทำจากไม้ไผ่ ชื่อภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "Take (ไม้ไผ่) Koputa (คัปเตอร์) " เมื่อจะใช้ก็นำไปวางไว้บนหัวจะทำให้สามารถบินได้ เป็นเครื่องมือที่โนบิตะและโดราเอม่อนใช้เกือบทุกตอนเพราะใช้งานง่ายและไม่ค่อยมีอันตราย สามารถบินได้ในระยะทาง 600 กม. และความเร็วประมาณ 80 กม.ต่อชม. เช่นสามารถใช้บินจากโตเกียวถึงโอซาก้าในเวลาประมาณครึ่งชม.


ประตูสารพัดสถานที่

หากเปิดประตูนี้ออกแล้วพูดชื่อว่าจะไปที่ไหนประตูก็จะเปิดออกไปยังสถานที่นั่นทันที ประตูเป็นประตูไม้ในแบบโบราณ เป็นเครื่องมือที่สะดวกสบายที่สุด ของวิเศษชิ้นนี้ถูกใช้บ่อยๆ ทำให้เราได้เห็นสถานที่ต่างๆ ในการ์ตูนได้มากมายหลายที่ ตามจินตนาการ


ไฟฉายย่อส่วน


รูปร่าง และวิธีใช้คล้าย ๆ กับไฟฉายทั่ว ๆ ไป ใช้สำหรับย่อสิ่งของหรือขยายสิ่งของให้ใหญ่หรือเล็กก็ได้ มีประโยชน์มาก และโดเรม่อนก็นำมาใช้บ่อยๆ อีกด้วย

ไทม์แมชชีน



เครื่องทาม์แม็คชีนเป็นพาหนะที่สามารถใช้เดินทางย้อนเวลาไปอดีต หรือ เดินทางข้ามเวลาไปสู่อนาคตได้ โดยทางเข้าและทางออกจะอยู่ในลิ้นชักโต๊ะในห้องนอนของโนบิตะ โดราเอม่อนและเพื่อนๆ สามารถใช้เดินทางไปอนาคตได้ แต่ว่าเครื่องนี้ก็ไปส่งผิดที่ผิดเวลาบ่อย ๆ

ต้นคิดโดราเอมอน

โดเรม่อนเกิดเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2112 ที่โรงงานหุ่นยนต์ มีตัวสีเหลืองแต่แล้ว วันหนึ่งก็ถูก

หนูกัดหู ก็เปลี่ยนสีอย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน โดราเอมอนก็กลัวหนูตั้งแต่นั้นมา


ต้นคิด โดเรมอน

วันหนึ่งในปี พ.ศ. 2512 อาจารย์ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ ต้องเขียนการ์ตูนเรื่องใหม่ ดังนั้นท่านจึง ได้

ไปปรึกษากับ อาจารย์โมโตโอะ อาบิโกะ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง พอกลับบ้าน อาจารย์ฟูจิโม

โตะ ก็ยังคิดไม่ได้ว่าจะเขียนการ์ตูนอะไรดี ตอนนั้น...เนื่องจากใกล้เวลาเที่ยงคืนแล้ว ท่านง่วง

และเผลอหลับไป



เช้าวันต่อมา...อาจารย์ฟูจิโมโตะถูกปลุกด้วยแมวที่บ้านและนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้คิดการ์ตูน

เรื่องใหม่ อาจารย์รีบวิ่งลงบันไดไปชั้นล่าง แต่ก็สะดุดอะไรบ้างอย่าง อาจารย์ฟูจิโมโตะสะดุด

ตุ๊กตาของลูกสาวของเขานั่นเอง และนั่นทำให้อาจารย์เกิดไอเดีย โดยนำแมว และ ตุ๊กตา มา

ผสมกัน



ในที่สุด อาจารย์ฟูจิโมโตะก็คิดออกว่า การ์ตูนเรื่องใหม่ที่จะเขียนเป็น เรื่องอะไร จากนั้นไอเดีย

เริ่มพุ่งกระฉูด โนบิตะและตัวการ์ตูนอื่นๆก็เริ่มตามมา ในที่สุดโดเรม่อนก็กลายเป็นการ์ตูนยอด

ฮิตของเด็กๆ



วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

โดเรม่อนเดอะมูฟวี่


Doraemon The Movie ตอน ผจญภัยไดโนเสาร์(1980)

Doraemon โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ Old Version (1981)

Doraemon The Movie ตอน บุกดินแดนมหัศจรรย์ (1982)


Doraemon The Movie ท่องแดนเวทมนตร์ (1984)


Doraemon The Movie ตอน สงครามอวกาศ(1985)


Doraemon The Movie ตอน สงครามหุ่นเหล็ก (1986)


Doraemon The Movie ดินแดนเทพนิยายไซอิ๋ว (1988)


Doraemon The Movie ท่องแดนญี่ปุ่นโบราณ (1989)


Doraemon The Movie ตะลุยแดนอาหรับราตรี (1991)


Doraemon The Movie บุกอาณาจักรเมฆ (1992)


Doraemon The Movie ฝ่าแดนเขาวงกต (1993)


Doraemon The Movie 3อัศวินในจินตนาการ (1994)


Doraemon the Movie ตอน ตำนานการสร้างโลก [1995]


Doraemon The Movie ตะลุยอวกาศ (1999)


Doraemon The Movie ท่องอาณาจักรโฮ่งเหมียว (2004)


Doraemon The Movie โนบิตะตำนานยักษ์พฤกษา(2008)


Doraemon The Movie โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ (2009)


Doraemon The Movie ผจญกองทัพมนุษย์เหล็ก(2011)


Doraemon The Movie แอนิมอลแอดเวนเจอร์ (2012)




    เนื้อเพลงโดเรม่อน

    เนื้อเพลง โดเรมอนนะ

    เนื้อเพลงภาษาญี่ปุ่น


    คอนนะโคะโตะอิอินะ เดะคิตะระอิอินะ


    อันนะยูเมะคอนนะยูเมะ อิพพะอิอะรูเคะโด


    มินนะมินนะมินอินะ คะนะเอะเตะคุเระรุ


    ฟูชิงินะพกเก็ตโตะดะ คะนะอิเตะคูเระรู


    โซราจิยูนิ โทบิตะอินะ


    ฮาอิ ทาเคะคอปต้า


    อัง อัง อัง ตดเตะโมะดาอิซุคิ โดราเอ..มอนน... 


    เนื้อเพลงแปลเป็นภาษาไทย


    เรื่องอย่างนี้ดีจังเลย ถ้าทำได้ละก็ยอดไปเลยนะ


    ความฝันเหล่านี้ เหล่านั้น มีตั้งเยอะตั้งแยะแน่ะ


    ทุกคนก็เป็นคนดี มาเติมฝันเหล่านั้นให้เต็ม


    ด้วยกระเป๋าวิเศษนี้ มาช่วยเติมฝัน


    อยากบินได้อย่างอิสระบนท้องฟ้าจังเลยนะ


    ไฮ้ { นี่ไง ( เสียงของโดเรม่อน ) } คอปเตอร์ไม้ไผ่


    อัง อัง อัง ชอบมากๆ เลยล่ะ โดราเอม่อน

    ประวัติผู้แต่ง

    ประวัติผู้แต่งประวัติย่อของ อ. ฟูจิโกะ ฟุจิโอะ 


    ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ เป็นนามปากการ่วม ของ อ. ทั้งสองท่านที่เขียนการ์ตูนเรื่องนี้ คือ

    อ. ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ เกิด 1 ธันวาคม 2476 ณ เมือง ทาคาโอกะ โทยามะ 

    อ. อาบิโกะ โมโตโอะ เกิด 10 มีนาคม 2477 ณ เมือง ไฮโอมิ โทยามะ 


    อาจารย์ทั้งสอง รู้จักกันมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งทั้งสองมีความสนใจในงานเขียนการ์ตูน

    มาก และได้เขียนการ์ตูนในงานส่งอาจารย์ร่วมกัน จึงกระทั่งถึงชั้นมัธยมศึกษา

    ในปีพ.ศ.2495 ท่านทั้งสองได้เปิดตัวหนังสือการ์ตูนเล่มแรกชื่อ "เทนชิโนะ ทามาซัง" สู่สาธารณะชน 


    และเริ่มใช้นามปากกา "ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ" 


    ในปีพ.ศ.2497 ได้ย้ายไปอยู่ที่กรุงโตเกียว หลังจากนั้น 2 ปี ท่านทั้งสองก็ได้ร่วมกับนักเขียนการ์ตูนท่าน

    อื่น (ฟูจิโอะ อาคัสซูกะ และ ไซโอทาโร่ อีชิโมริ)เปิดบริษัทชื่อ 'ชินแมงกาโตะ' หลังจากนั้นพวกเขาก็

    เริ่ม ทำการ์ตูนเคลื่อนไหว และ ได้จัดทำ 'สตูดิโอ-ซีโร่' 


    ในปีพ.ศ.2506 และในปีต่อมา การ์ตูนเรื่อง "โอเบเกะโนะ คิวทาโร่ (ผีน้อยคิวทาโร่)"ที่ใช้นามปากกา "ฟู

    จิโกะ ฟูจิโอะ" ก็มีชื่อเสียง และ เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย 

    ท่านอาจารย์ได้เขียนการ์ตูนอย่างจริงจัง จนในที่สุดก็เป็นที่รู้จักกันไปทั้วโลก และ ได้รับรางวัล หลาย

    รางวัลจากการ์ตูนของแก ตัวอย่างการ์ตูนที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายได้แก่ "นินจาฮาโตริ, ปา

    แมน, ยูเมโบชิ เดงกะ, มาทาโระกาคูรุ, ศาสตราจารย์กอล์เฟอร์ ซารุ และ โดเรม่มอน

    ประมาณสิ้นปีพ.ศ.2530 ท่านอาจารย์ทั้งสองก็ได้แยกตัวอิสระและใช้นามปากกาของตัวเอง โดยอาจาร

    ย์อ.อาบิโกะ โมโตโอะ ได้ใช้นามปากกา Fujiko Fujio (A) ส่วนอาจารย์ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ ได้เปลี่ยนมา

    ใช้ Fujiko Fujio(F) และ ภายหลังเปลี่ยนมาใช้ Fujiko F. Fujio

    ท่านอาจารย์อ.อาบิโกะ โมโตโอะ ได้เสียชีวิต ในปีพ.ศ.2531 
    ส่วนท่านอาจารย์ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ ได้เสียชีวิต ในวันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2539



    ตอนจบ (2)

    ตอนจบของโดเรม่อน แบบที่ 2
     
    ตอนจบของเรื่องที่อาจารย์ ฟูจิโกะ และฟูจิโอะร่างไว้เป็น ตอนจบจริงๆของ โดเรมอนไม่ใช่ โดเรมอน


    กลับอนาคตหรอก... จริงๆแล้วของ original ที่ อ.ฟุจิโกะ เขียนเป็น story board ไว้ก่อนที่จะอ.จากไป 

    วันหนึ่ง ฉากในโรงพยาบาล โนบิตะตื่นขึ้นมา และเจอพ่อกับแม่และเพื่อนๆ ครบทุกคนยืนอยู่รอบเตียง 

    แล้วโนบิตะก็ถามถึงโดเรมอน ทุกคนกลับปฎิเสธว่า ไม่รู้จักและบอกโนบิตะว่า โนบิตะหลับมานานเป็นปี

    แล้วเนื่องจากไม่สบาย และโนบิตะก็นึกย้อนถึงเรื่องราวเกี่ยวกับโดเรมอน ทั้งการผจญภัยต่างๆ ทุกสิ่งทุก

    อย่างเป็นเพียงความฝันเท่านั้นโดเรมอน เซวาสึ โดเรมี ล้วนเป็น ความฝันของเขาทั้งสิ้น โนบิตะเป็นเด็ก

    ที่ไม่แข็งแรง และไม่มีเพื่อนรักที่ จะอยู่ด้วย เขาต้องนอนโรงพยาบาลตลอดเวลาและเขาก็หลับไป ฉาก

    ต่อมา เริ่มที่ พ่อแม่และเพื่อนๆของโนบิตะร้องไห้กันอยู่ในงานศพของ โนบิตะ..เขาจากไปก่อนวัยอัน

    ควร..และเรื่องราวทุกอย่างก็จบลง ที่โนบิตะฝันถึงโดเรมอนและอนาคตนั้นเป็นเพราะเขารู้ดีว่า เขาจะ

    ต้อง ตายในอีกไม่นาน เขาจึงอยากที่จะมีอนาคตมีเพื่อนรัก มีการผจญภัยสนุกสนาน แต่ฝันของเขาก็

    ไม่มีวันเป็นจริง... ตลอดไป...... 


    ตอนนี้เป็นเพียงตอนที่ยังไม่ตกลงว่าจะออกพิมพ์หรือทำเป็นภาพยนตร์การ์ตูน แต่อย่างใด เพราะคงไม่มี

    ใครอยากให้จบแบบนี้

    ตอนจบ (1)

    ตอนจบ โดเรมอนว่ากันว่ามีสองแบบ

    วันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันธรรมดาทั่ว ๆ ไป โนบิตะกลับมาจาก โรงเรียน ขึ้นไปยังห้องนอน และพบโดเรมอนกำลังนอน หลับอยู่เหมือนปกติ นี่ ! โดเรมอน ตื่นมาเล่นกันเถอะ แต่โดเรมอนก็ยังหลับอยู่ โนบิตะคิดว่าโดเรมอนคงเหนื่อยมาก จึงปลุกไม่ตื่น ดังนั้นโนบิตะจึงออกไปเล่นกับ ชิซูกะ และ เพื่อนคนอื่น หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงโนบิตะกลับมายังบ้าน แต่โดเรมอนก็ยังหลับอยู่ โนบิตะรู้สึกแปลกใจ และพยายามปลุกโดเรมอนแต่ก็ไม่ปฎิกริยาใด ๆ ทั้งสิ้นจากโดเรมอน โนบิตะเริ่มรู้สึกกลัวและเหนื่อยที่จะปลุกโดเรมอน โนบิตะพยายามทำทุกอย่างแต่โดเรมอนก็ไม่ยอมตื่น โนบิตะรู้แล้วว่า มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปและมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โนบิตะเริ่มร้องไห้โฮแต่โดเรมอนก็ไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว และแล้วโนบิตะก็คิดอะไรขึ้นมาได้ 1 อย่าง และกระโดดเข้าไปในโต๊ะที่มีไทม์แมชชีน และ โนบิตะก็ได้ไปในอนาคตเพื่อที่จะพบโดเรมีน้องสาวของโดเรมอน โนบิตะขอร้องให้โดเรมีช่วยและฝืนใจโดเรมีให้กลับมาในปี 1998 หลังจากที่มาถึง โดเรมีก็ได้เข้าไปตรวจสอบในตัวโดเรมอนว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นไม่กี่นาที โดเรมีก็บอกโนบิตะว่า แบตเตอร์รี่หมดโนบิตะถูกทำให้เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นและถามโดเรมีเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่า 
    แบตเตอรี่หมดหรือ ? อย่างงั้นโดเรมอนก็ไม่เป็นไรสิ ใช่ไหม? ถ้างั้น ช่วยเปลี่ยยแบตเตอร์รี่ใหม่ให้หน่อยทำให้โดเรมอนกลับมามีชีวิตเหมือนเดิม โดเรมีมองมาที่โนบิตะ และสั่นหน้า แล้วพูดว่าฉันควรจะเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ใหม่หรือ โนบิตะจึงถามกลับว่า ทำไมโดเรมีจึงพูดอย่างนั้น โดเรมีจึงตอบ ว่า แบตเตอร์รี่หลักของโดเรมอนอยู่ตรงนี้ ใกล้กับกระเป๋าและก็ถูกใช้หมดแล้ว แต่จริง ๆ แล้วก็ยังมีแบตเตอร์รี่สำรองอยู่ที่หูแต่อย่างทีรู้ ๆ กันอยู่ว่า หูทั้งสองข้างของโดเรมอนถูกหนูกินไปเมื่อหลายปีก่อนดังนั้นตอนนี้จึงไม่มีแบตเตอรรี่สำรอง โนบิตะ จึงถามโดเรมี เธอหมายความว่าไงน่ะ ฉันหมายความว่า ถ้าฉันเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ใหม่โดเรมอนจะสูญเสียความจงจำทั้งหมดเกี่ยวกับโนบิตะตลอดกาล แล้วฉันควรจะเปลี่ยนหรือ อะไรนะ โนบิตะปิดตาแล้วก็ร้องไห้ แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที โนบิตะก็หยุดร้อง และพูดเบา ๆ กับโดเรมีว่า ขอบคุณมาก ผมจะจัดการส่วนที่เหลือเอง เธอควรจะกลับไปยังอนาคตได้แล้วโดเรมีไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ก็เข้าไปกอดโนบิตะ แล้วโดเรมีก็ลาโนบิตะกลับบ้าน หลังจากที่โดเรมีกลับไปแล้ว โนบิตะก็อุ้มโดเรมอนไปไว้บนชั้น

    ---- หลายปีผ่านไป------------

    ในปี 2010 โนบิตะโตเป็นผู้ใหญ่ ตั้งแต่วันนั้น โนบิตะก็เปลี่ยนแปลงและเรียนหนังสืออย่างหนัก และก็ไม่เคยร้องไห้อีก และเขาอยู่โดยไม่มีโดเรมอนโนบิตะบอกชิซูกะ และ เพื่อนๆ ทั้งหลายว่า โดเรมอนต้องกลับไปยังอนาคตและไม่สามารถมา พบเพื่อน ๆ ทั้งหลายได้อีกแล้วชิซูกะประทับใจในตัวโนบิตะที่มีความเปลี่ยนแปลง และต่างจากเมื่อ 10 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิงและทั้งสองก็รักกัน แล้วแต่งงานกัน โนบิตะเป็นนักวิทยาศาสตร์และทำห้องของเขาเป็นห้องทดลอง และเขาก็ได้ตั้งใจทำงานอย่างหนักในงานของเขาและห้ามไม่ให้ชิซูกะ เข้ามายังห้องทดลอง และแล้ววันหนึ่งโนบิตะก็เรียกให้ชิซูกะเข้ามายังห้องทดลอง และมันเป็นครั้งแรกที่ชิซูกะเข้ามายังห้องของสามีของเธอในขณะที่เธอเข้ามายังห้อง เธอถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกเธอเห็นโดเรมอนเพื่อนเก่าของเธอที่เคยเล่นด้วยกัน ในตอนที่ยังเป็นเด็กโดเรมอนไม่ขยับ และ เหมือนกับกำลังหลับ ดูนี่! ชิซูกะผมจะเสียบปลั๊กแล้วนะโนบิตะเปิดสวิตช์หลัก บนตัวของโดเรมอน โดเรมอนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเป็นเป็นช่วงที่ ทำให้เข้าใจได้ว่าใครเป็นผู้ที่คิดค้นโดเรมอนขึ้นมาซึ่งก็คือโนบิตะนั่นเอง เขาเรียนอย่างหนัก เพื่อที่ว่าจะได้พบ และพูดคุย กับโดเรมอนเพื่อนรักของเขา ที่มารู้จักกัน แล้วก็จากไป

    โนบิตะเป็นผู้หนื่งที่ได้สร้างโดเรมอนขึ้นมาเขาคิดค้นโปรแกรม และโครงสร้างทั้งหลาย สำหรับหุ่นยนต์โดเรมอน โนบิตะและชิซูกะร้องไห้อย่างเงียบ ๆ โดเรมอนก็ลืมตาขี้น และก็พูดว่า โนบิตะนายทำการบ้านเสร็จแล้วหรือ มันเหมือนกับมี ก้อนเมฆสีขาวก้อนเดิม อยู่บนท้องฟ้าช่างเหมือนกับเวลาแห่งความทรงจำในอดีต ที่พวกเขามีร่วมกัน